Fury - สงครามสุดโหดแห่งความรุนแรง!

“Fury” นั้นเป็นภาพยนตร์สงครามที่ออกฉายในปี 2014 ที่นำแสดงโดย Brad Pitt ซึ่งรับบทเป็น Staff Sergeant Don “Wardaddy” Collier ผู้บัญชาการรถถัง M4 Sherman ชื่อว่า “Fury” ในช่วงทศวรรษสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง

ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยฉากสงครามที่รุนแรงและสมจริง และการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ Brad Pitt

พล็อตเรื่องและตัวละคร

เนื้อเรื่องของ “Fury” เริ่มต้นขึ้นในปี 1945 ในช่วงสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ที่สอง รถถัง M4 Sherman ชื่อว่า “Fury” และลูกเรือทั้งห้าคน ซึ่งนำโดย Staff Sergeant Don “Wardaddy” Collier (Brad Pitt) กำลังปฏิบัติภารกิจรุกรานดินแดนเยอรมัน

ลูกเรือของ Fury ประกอบด้วย Norman Ellison (Logan Lerman) นักทหารมือใหม่ที่เพิ่งถูกส่งมาประจำการในหน่วยนี้, Boyd “Trini” Swan (Shia LaBeouf), Grady Travis (Jon Bernthal) และ Frank “Coon-Ass” Aquino (Michael Peña)

Norman Ellison ที่เพิ่งเข้าร่วมกองทัพและยังไม่มีประสบการณ์ทางยุทธวิธีต้องเรียนรู้ความโหดร้ายของสงครามอย่างรวดเร็ว

Wardaddy เป็นผู้บัญชาการที่เข้มงวดและเอาจริง ซึ่งใช้ความรุนแรงเพื่อฝึกฝนลูกเรือให้แข็งแกร่งขึ้น และสอนให้พวกเขาว่าการอยู่รอดในสนามรบนั้นสำคัญกว่าทุกอย่าง

ฉากสงครามที่สมจริง

ภาพยนตร์เรื่อง “Fury” โดดเด่นด้วยฉากสงครามที่สมจริงและดุเดือด ผู้กำกับ David Ayer ซึ่งเคยมีประสบการณ์ในการทหาร ได้สร้างภาพยนตร์สงครามที่รุนแรงและน่าจดจำ

ฉากการต่อสู้ในรถถัง การยิงปืน การระเบิด และความสูญเสียของชีวิตนั้นถูกถ่ายทำอย่างสมจริง และทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง

การแสดงที่ยอดเยี่ยม

Brad Pitt ทำหน้าที่นำแสดงด้วยการแสดงที่เข้มแข็งและน่าจดจำ บทบาทของ Wardaddy เป็นตัวละครที่มีมิติซับซ้อน และ Brad Pitt สามารถถ่ายทอดความรุนแรง ความเป็นผู้นำ และความห่วงใยต่อลูกเรือได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Logan Lerman ที่รับบท Norman Ellison ก็แสดงได้อย่างน่าประทับใจ เขาสามารถถ่ายทอดความกลัว ความสับสน และการเติบโตของตัวละครได้อย่างสมจริง

บทวิจารณ์และความสำเร็จ

ภาพยนตร์ “Fury” ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ด้านฉากสงครามที่สมจริง การแสดงของนักแสดง และดนตรีประกอบ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างสูง โดยทำรายได้ทั่วโลกกว่า 211.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

สรุป

“Fury” เป็นภาพยนตร์สงครามที่สมจริงและน่าตื่นเต้น ที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ฉากสงครามที่ดุเดือด การแสดงที่ยอดเยี่ยม และบทบาทตัวละครที่น่าจดจำ ทำให้ “Fury” เป็นภาพยนตร์สงครามที่ไม่ควรพลาด

ตารางเปรียบเทียบภาพยนตร์สงคราม