โลกภาพยนตร์มีเสน่ห์มหัศจรรย์ที่สามารถพาผู้ชมไปสู่ช่วงเวลาที่แตกต่างกันอย่างรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่มรีโมท เราจะได้พบกับอารยธรรมโบราณ ยุคกลาง หรือแม้กระทั่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง วันนี้ เราจะย้อนเวลากลับไปสู่ยุควิคตอเรียนและร่วมสัมผัสเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งใน “The Vicar of Wakefield”
ออกฉายในปี ค.ศ. 1911 “The Vicar of Wakefield” ถือเป็นผลงานที่โดดเด่นในยุคเงียบ (silent era) ที่นำเสนอด้วยภาพขาวดำและการแสดงที่เน้นท่าทางและสีหน้ามากกว่าคำพูด
该剧改编自奥利弗·戈尔德สมิ斯的นวนิยายชื่อเดียวกัน ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1766 เรื่องราวของ “The Vicar of Wakefield”
xoay quanhครอบครัวมิสเตอร์สก็อท ผู้เป็นบาทหลวงและภรรยา รวมทั้งบุตรชายสองคน คือ โอลิเวอร์และจอร์จ และบุตรสาวสองคน คือ ซาราห์และลิลลี่ ครอบครัวนี้ดำเนินชีวิตอย่างสงบสุขในหมู่บ้านเล็กๆ
ทว่าความโชคร้ายก็ได้มาเยือนเมื่อโอลิเวอร์ถูกปลงพระชนม์และจอร์จต้องถูกจำคุก ในขณะเดียวกัน ซาราห์ก็ตกอยู่ในอันตรายหลังจากถูกเจ้าชายหนุ่มลวงหลอก
เรื่องราวของ “The Vicar of Wakefield” จัดแสดงถึงความรัก ความภักดี และความอดทนของครอบครัวมิสเตอร์สก็อท ผู้ซึ่งเผชิญหน้ากับความยากลำบากอย่างไม่ย่อท้อ
แม้ว่าเป็นภาพยนตร์เงียบ แต่การแสดงของนักแสดงนำที่น่าประทับใจและดนตรีประกอบที่ไพเราะช่วยให้ผู้ชมสามารถรับรู้และเข้าใจอารมณ์ของตัวละครได้อย่างชัดเจน
ตัวละครสำคัญใน “The Vicar of Wakefield”
ตัวละคร | บทบาท | นักแสดง |
---|---|---|
Mr. Primrose (มิสเตอร์สก็อท) | บาทหลวงผู้ดีศรี | James Quirk |
Olivia Primrose (โอลิเวีย) | บุตรสาวคนโต | Mary Maurice |
George Primrose (จอร์จ) | บุตรชายคนโต | Cecil Raleigh |
จุดเด่นของ “The Vicar of Wakefield”
-
การดำเนินเรื่องที่ชวนติดตาม: “The Vicar of Wakefield” นำเสนอเรื่องราวครอบครัวที่แสนอบอุ่นและต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึก 공감และลุ้นไปพร้อมกับตัวละคร
-
การแสดงที่โดดเด่น: นักแสดงทุกคนใน “The Vicar of Wakefield” แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างสมจริง แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์เงียบก็ตาม
-
ดนตรีประกอบอันไพเราะ: ดนตรีประกอบที่ถูกคัดเลือกมาอย่างเหมาะสมช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชม และยังสามารถสะท้อนอารมณ์ของฉากต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
-
ภาพยนตร์เงียบที่ทรงคุณค่า: “The Vicar of Wakefield” เป็นตัวอย่างของภาพยนตร์เงียบในยุคทอง
ข้อควรพิจารณา
เนื่องจากเป็นภาพยนตร์เงียบ การรับชม “The Vicar of Wakefield” อาจจะต้องอาศัยความอดทนและการจินตนาการเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีบทสนทนา แต่ผู้ชมก็จะได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของการแสดงที่เน้นสีหน้า ท่าทาง และการเคลื่อนไหว
สรุป
“The Vicar of Wakefield” เป็นภาพยนตร์เงียบclassics ที่สามารถทำให้ผู้ชมย้อนเวลากลับไปสู่ยุควิคตอเรียนและสัมผัสถึงความรัก ความภักดี และความอดทนของครอบครัวมิสเตอร์สก็อท
แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์เงียบ แต่ “The Vicar of Wakefield” ก็ยังคงเป็นผลงานที่ทรงคุณค่าและควรค่าแก่การรับชม